สวัสดีค่ะน้อง ๆ ช่วงนี้ก็มีน้อง ๆ ปรึกษาพี่กันมาเยอะมากเกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยและคณะ และคณะยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นคณะวิศวะ โดยเฉพาะวิศวโยธา วันนี้พี่เลยจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับสาขานี้ให้ จะเป็นยังไง ไปตามอ่านกันเลยค่ะ

วิศวโยธาเรียนเกี่ยวกับอะไรนะ

วิศวกรรมโยธาเป็นสาขาวิชาทางวิศวกรรมที่เน้นการออกแบบ การก่อสร้าง และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานสาธารณะ เช่น ถนน สะพาน อาคาร ท่องเที่ยว ระบบสาธารณะ ระบบบำรุงรักษาน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับมนุษย์
นักวิศวกรรมโยธาจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการในการออกแบบ การก่อสร้าง และการบำรุงรักษาโครงสร้างที่ต่างกันไปตามความต้องการและข้อกำหนดของโครงการ เช่น การใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่เหมาะสม การจัดการสิ่งแวดล้อม การควบคุมคุณภาพ และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ นักวิศวกรรมโยธายังต้องมีความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการ การทดสอบและประเมินความปลอดภัย การจัดการโครงการและทรัพยากร และการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้โครงการเสร็จสมบูรณ์ตรงตามเป้าหมายและข้อกำหนดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ดังนั้น นักวิศวกรรมโยธาจะต้องมีความรู้และทักษะทางวิศวกรรมและการจัดการเพื่อให้สามารถดำเนินงานในสาขานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้อย่างมีความเป็นระเบียบและมีคุณภาพ

4 ปีต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง

การเรียนวิศวกรรมโยธา?ในประเทศไทย สาขาวิศวกรรมโยธามักจะมีรายการวิชาหลักที่นักศึกษาต้องเรียนเพื่อให้ได้รับปริญญาบัณฑิตในสาขานี้ โดยรายละเอียดของหลักสูตรอาจมีความแตกต่างไปตามมหาวิทยาลัยและโปรแกรมการศึกษา แต่โดยทั่วไปแล้ว สาขาวิศวกรรมโยธาในประเทศไทยมักจะมีหลักสูตรที่ประกอบด้วยรายวิชาที่หลากหลายในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้คือรายการรวมของหัวข้อที่สามารถพบเจอในหลักสูตรวิศวกรรมโยธาของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย

1. วิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม เช่น วิทยาศาสตร์พื้นฐาน, คณิตศาสตร์เพื่อวิศวกรรม, ฟิสิกส์เพื่อวิศวกรรม, เคมีเพื่อวิศวกรรม เป็นต้น
2. วิชาวิศวกรรมโยธาพื้นฐาน เช่น วิศวกรรมสถาปัตยกรรม, วิศวกรรมและวัสดุก่อสร้าง, วิศวกรรมธรณีวิสาหกิจ, การสร้างและวางแผนโครงสร้าง เป็นต้น
3. วิชาเฉพาะ เช่น การวางแผนโครงการและการจัดการโครงการ, การออกแบบโครงสร้าง, การวิเคราะห์โครงสร้าง, การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง เป็นต้น
4. วิชาเลือก เพื่อให้นักศึกษาได้เลือกเรียนเพิ่มเติมในพื้นที่ที่สนใจ เช่น การออกแบบสิ่งก่อสร้างยังชีพ, การบำรุงรักษาโครงสร้าง, การสร้างเมืองอาคารยังชีพ เป็นต้น
5. โครงงานหรือฝึกปฏิบัติ ซึ่งอาจจะเป็นการทำโครงงานวิศวกรรมหรือการฝึกงานภาคฤดูร้อนที่สถานประกอบการต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีการเสริมสร้างทักษะทางการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะทำงานในสายอาชีพวิศวกรรมโยธาในอุตสาหกรรมหรือส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาในสาขานี้ให้เติบโตขึ้นไปด้วยความเชี่ยวชาญและความรับผิดชอบในการสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เสมอ

นอกจากนี้ ยังมีการเสริมสร้างทักษะทางการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะทำงานในสายอาชีพวิศวกรรมโยธาในอุตสาหกรรมหรือส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาในสาขานี้ให้เติบโตขึ้นไปด้วยความเชี่ยวชาญและความรับผิดชอบในการสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เสมอ

วิศวกรรมโยธาแยกเป็นสาขาย่อยอีกด้วยนะ

น้อง ๆ รู้กันไหมคะว่าวิศวกรรมโยธาเนี่ย แยกเป็นสาขาย่อยอีกนะ และแต่ละสาขาย่อยเรียนอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลยค่ะ

วิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและคำนวณ สิ่งก่อสร้าง การศึกษาในสาขานี้จะเน้นในทางด้านงานคำนวณวิเคราะห์ ออกแบบโครงสร้างของสิ่งก่อสร้าง และแรงต้านทานของวัสดุ เพื่อหาวัสดุและขนาดของวัสดุที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ งานที่เกี่ยวข้องได้แก่ การก่อสร้างอาคาร เขื่อนหรือสะพาน เป็นต้น

วิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ (Construction Engineering and Management)
ศึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารเป็นหลัก โดยเน้นศึกษาทางด้านระบบการสร้างอาคาร การวางแผนงาน การประเมินราคาค่าก่อสร้าง นอกจากนี้ ในบางสถาบันจะมีการสอนเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบสุขาภิบาลภายในอาคาร

วิศวกรรมขนส่ง (Transportation Engineering)
ศึกษาแยกเป็น 2 สาขาหลักคือระบบและวัสดุ โดยงานทางด้านระบบจะเน้นทางด้านการวางผัง การจราจร และการจัดการทางด้านงานจราจร โดยทำการศึกษาถึงประโยชน์และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างระบบถนน สำหรับงานทางด้านวัสดุจะเน้นในการศึกษาวัสดุในการทำถนน ได้แก่ คอนกรีตและยางมะตอย เป็นหลัก โดยศึกษาถึงกรรมวิธีในการสร้างถนนและปรับปรุงถนน

วิศวกรรมเทคนิคธรณี (Geotechnical engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์และวิศวกรรมของดิน เพื่อการวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมโยธา

วิศวกรรมธรณี (Geological engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์ วิศวกรรมของหิน และธรณีวิทยาประยุกต์ เพื่อการวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมโยธาและเหมืองแร่

วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมในน้ำและในอากาศ การปรับปรุงคุณภาพของของเสีย

วิศวกรรมทรัพยากรน้ำ (Water Resource engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับงานทางด้านแหล่งน้ำ ปริมาณน้ำฝน และระบบการระบายน้ำ รวมทั้งการก่อสร้างคู คลอง และแม่น้ำ

วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering)
ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำรังวัดและงานทางด้านสำรวจ สำหรับใช้ในทางด้านแผนที่ รวมถึงการศึกษาทางด้าน จีพีเอส (GPS) และ ภูมิสารสนเทศ (Geoinformatics หรือ Geographic information system;GIS)

เรียนที่ไหนดี ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่เปิดรับ 10 แห่ง



  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา-ทรัพยากรน้ำ
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา?
  • มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนยรังสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
  • มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
  • มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา?
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา?
  • มหาวิทยาลัยบูรพา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา

วิศวโยธาเรียนจบไปทำอาชีพอะไรได้บ้าง

สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนจบในสาขาวิศวกรรมโยธา จริง ๆ ก็มีงานหลากหลายมาก พี่ยกตัวอย่างมาให้น้อง ๆ บางส่วนนะคะ อย่างที่เคยบอกความรู้ที่เรามีมากขึ้นสามารถนำไปต่อยอดได้อีกมากมาย ก็แล้วแต่น้อง ๆ เลยนะคะว่าชอบงานแบบไหน
1. วิศวกรออกแบบ: นักวิศวกรรมโยธาสามารถทำงานเป็นวิศวกรออกแบบที่ใช้ทักษะในการสร้างและวางแผนโครงสร้างต่าง ๆ เช่น สถาปัตยกรรมสำหรับอาคารที่แข็งแรงและปลอดภัย
2. วิศวกรก่อสร้าง: หน้าที่ของวิศวกรรมโยธารวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างต่าง ๆ เช่น ถนน, สะพาน, อาคาร, ท่องเที่ยว, และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ
3. วิศวกรควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง: หน้าที่คือการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง เพื่อให้แน่ใจว่างานที่ดำเนินการสร้างมีคุณภาพและปลอดภัยตามข้อกำหนด
4. วิศวกรทดสอบและวิเคราะห์โครงสร้าง: ใช้ทักษะในการทดสอบและวิเคราะห์โครงสร้างเพื่อให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพตามที่กำหนด
นักวิจัยและพัฒนา: สามารถทำงานในสถานบันเทิง, สำนักงานวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรม, หรือมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่
5. วิศวกรที่เชื่อมโยงกับภาครัฐหรือองค์กรเอกชน: สามารถทำงานในหน่วยงานของรัฐ, บริษัทเอกชน, หรือโครงการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เช่น การวางแผนพัฒนาพื้นที่, การบริหารจัดการโครงการ, และการอนุรักษ์ทรัพยากร

นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีกมากมายที่นักวิศวกรรมโยธาสามารถตามได้ตามความสนใจและความพร้อมของตนเอง เช่น การทำงานในภูมิภาคที่เป็นภูมิภาคเสี่ยงหรือการทำงานในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน หรือการศึกษาต่อระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในสาขาที่สนใจต่อไป
เป็นยังไงกันบ้างคะน้อง ๆ สำหรับบทความนี้ พี่สรุปมาให้แบบละเอียดมาก ๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับน้อง ๆ นะคะ และสำหรับน้อง ๆ และผู้ปกครองที่กำลังมองหาที่เรียนพิเศษอยู่และอยากเรียนสดกับพี่ ๆ ติวเตอร์ตัวต่อตัว พี่ขอฝาก Uniprep Tutor ไว้ด้วยนะคะ นอกจากจะเป็นสถาบันกวดวิชาแล้ว เรายังมีระบบโค้ชที่จะช่วยให้น้อง ๆ ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ แล้วเจอกันนะคะน้อง ๆ